ข่าว

โตโยต้าแถลงยอดขายตลาดรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2563 พร้อมคาดการณ์ตลาดรวมอยู่ที่ 660,000 คัน

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด  แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2563 พร้อมประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2563   เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ผ่านทางออนไลน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ดำเนินโครงการ “Toyota Stay with You” หรือ “โตโยต้าเคียงคู่ไทย สู้ภัยโควิด-19″ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและผู้ผลิตชิ้นส่วนทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาความยากลำบากของพี่น้องประชาชนและสังคมไทย จนกว่าสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดลง ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่า “จะไม่มีใครถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง”

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและระดับโลก ทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศและส่งออกหดตัวในช่วงไตรมาส 1 และต่อเนื่องถึงไตรมาส 2 ทั้งนี้จากการผ่อนปรนให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการที่ภาครัฐกำหนด มีการคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น”

 

  1. สถานการณ์ตลาดรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2563

“ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เดิมมีการคาดการณ์ตลาดรวมในประเทศของปี 2563 อยู่ที่ 940,000 คัน และตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์โตโยต้าไว้ที่ 310,000 คัน แต่ทว่าในสถานการณ์ไตรมาสที่ 1 ตัวเลขยอดขายตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 200,000 คัน หรือคิดเป็น 76% ของยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 56,200 คัน คิดเป็น 65% ของยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา จากการที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการของตลาดลดลงอย่างฉับพลัน ทั้งตลาดรถยนต์ในประเทศและตลาดการส่งออก ทำให้สภาวะการดำเนินธุรกิจของประเทศไทยโดยรวมนั้น มีความแตกต่างออกไปจากแผนที่เราคาดการณ์ไว้โดยสิ้นเชิง

สำหรับโตโยต้า เราจำเป็นต้องประกาศหยุดสายการผลิตชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน จนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ประกอบกับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายฯมีปริมาณลดลง อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่เราต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราวนั้น พนักงานของเรายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นโอกาสในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงาน โดยให้มีการสลับกันเข้ามาปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสำหรับพนักงานสายสำนักงาน เราจัดให้มีการทำงานจากที่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งหมดนี้ ช่วยให้โตโยต้าสามารถรักษาสถานะการจ้างงานของพนักงานทุกคนโดยไม่มีการเลิกจ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผมขอขอบคุณพนักงานโตโยต้าทุกคนที่ได้ร่วมกันทุ่มเททำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง ตลอดจนรักษาสุขภาพของตนเองให้ปลอดภัยและแข็งแรงอยู่เสมอ

เช่นเดียวกันกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั้ง 155 แห่งทั่วประเทศ ที่พยายามรักษาสถานะการจ้างงานของพนักงานทุกคน โดยพนักงานขายและพนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลหลังการขายได้ใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการติดต่อลูกค้า พร้อมเชิญลูกค้านำรถยนต์เข้ามาซ่อมบำรุงที่ศูนย์บริการหรือจัดให้มีบริการซ่อมบำรุงแบบเคลื่อนที่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้าสามารถดูแลรักษารถยนต์ของตนเองได้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้แทนจำหน่ายของเราจากใจจริงด้วยครับ

นอกจากนี้ ผมขอแสดงความซาบซึ้งใจต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจังหวัดที่โรงงานทั้ง 3 แห่งของเราตั้งอยู่ สำหรับการอนุเคราะห์ให้เราสามารถดำเนินการจัดส่งรถยนต์ใหม่ ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงระยะเวลาของการบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวก็ตาม และท่านยังยินดีอนุญาตให้โตโยต้าสามารถกลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้เห็นพนักงานในโรงงานของเรามีความสุขที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยปัจจุบันการผลิตของเราก็สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น และตั้งใจที่จะเพิ่มยอดการผลิตให้สูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป โดยเราจะยังคงเน้นย้ำในการดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับพนักงานของเราทุกคน พร้อมรักษาระดับความเข้มงวดของการใช้มาตรการการป้องกันโรค ตามแนวทางของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด”

“หลังผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ การหยุดสายการผลิตเป็นการชั่วคราวไปแล้วนั้น ตลาดรถยนต์ของไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ลดลงไปที่ประมาณ 128,500 คัน คิดเป็น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยโตโยต้ามียอดขายอยู่ที่ 38,100 คัน หรือคิดเป็น 45% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในทางกลับกันหากเราพิจารณาถึงยอดจำหน่ายรายเดือนของช่วงไตรมาสที่ 2 จะเห็นได้ว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงค่อยๆฟื้นตัว อันเป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ทยอยออกมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น”

สถิติการขายรถยนต์ ม.ค. – มิ.ย. 2563

  • ปริมาณการขายรวม             328,604 คัน     ลดลง     3%
  • รถยนต์นั่ง         119,716 คัน     ลดลง     0%
  • รถเพื่อการพาณิชย์             208,888 คัน     ลดลง    2%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)         166,409 คัน     ลดลง     6%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)         149,432 คัน     ลดลง     7%

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ม.ค. – มิ.ย. 2563

  • ปริมาณการขายโตโยต้า 94,222 คัน ลดลง     1%   ส่วนแบ่งตลาด 28.7%
  • รถยนต์นั่ง 29,926 คัน       ลดลง     4%   ส่วนแบ่งตลาด 25.0%
  • รถเพื่อการพาณิชย์ 64,296 คัน       ลดลง     2%   ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)            56,265 คัน       ลดลง     3%   ส่วนแบ่งตลาด 33.8%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)              49,622 คัน       ลดลง     5%   ส่วนแบ่งตลาด 33.2%

 

  1. แนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2563

จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรุ่นนั้น ส่งผลให้เราปรับเป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าในปี 2563 นี้ใหม่เป็น 220,000 คัน คิดเป็น 66% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือเท่ากับ 33.3% ของส่วนแบ่งทางการตลาด หากในอนาคตตลาดมีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น เราก็จะท้าทายตัวเองด้วยการปรับเป้าหมายให้เพิ่มสูงยิ่งขึ้นไปอีก”

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2563

  • ปริมาณการขายรวม   660,000 คัน     ลดลง      5%
  • รถยนต์นั่ง         225,100 คัน     ลดลง      5%
  • รถเพื่อการพาณิชย์             434,900 คัน     ลดลง      6%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)         346,015 คัน     ลดลง      7%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)         310,000 คัน     ลดลง      2%

ประมาณยอดขายรถยนต์ในประเทศของโตโยต้า ปี 2563

  • ปริมาณการขายรวม  220,000 คัน    ลดลง   8%    ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
  • รถยนต์นั่ง    62,800 คัน    ลดลง   6%                ส่วนแบ่งตลาด 27.9%
  • รถเพื่อการพาณิชย์             157,200 คัน    ลดลง   8%    ส่วนแบ่งตลาด 36.1%
  • รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)  135,600 คัน    ลดลง   3%    ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
  • รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)  121,000 คัน    ลดลง   9%    ส่วนแบ่งตลาด 39.0%

สำหรับการส่งออกในครึ่งปีแรก 2563 ของโตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวนทั้งสิ้น 97,000 คัน ลดลง 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เราได้เห็นสัญญาณเชิงบวกจากในภูมิภาคโอเชียเนียและบางประเทศในทวีปเอเชีย ด้วยเหตุนี้ เราจึงปรับการคาดการณ์การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปสำหรับปีนี้ทั้งปี อยู่ที่ 194,000 คัน หรือคิดเป็น 73% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในส่วนของการผลิตรถยนต์ของเรานั้น ก็เป็นไปตามสภาวะของตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเหนือกว่าที่เราได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้น จำนวนการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2563 จะอยู่ในระดับที่ 408,000 คัน คิดเป็น 71% เมื่อเทียบกับยอดการผลิตของปีที่ผ่านมา”

เรายังคงยืนหยัดเดินหน้าตามแนวทางสากลของโตโยต้าในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกรถยนต์ในระดับภูมิภาค ตลอดจนเดินหน้าสร้างความเจริญเติบโตให้กับธุรกิจของโตโยต้าในประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

                  โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข

Most Popular

To Top