ข่าว

ทดสอบรถกระบะรุ่นแรกของเอ็มจี NEW MG EXTENDER เส้นทาง ขอนแก่น – อุดรธานี – พิษณุโลก

 จุดกระแส สร้างแรงกระเพื่อม ให้กับตลาดรถปิกอัพบ้านเราค่อนข้างมาก พลันที่ค่ายรถยนต์จากถิ่นผู้ดี เอ็มจี ได้ตัดสินใจ นำรถปิกอัพพันธุ์ยักษ์ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ เปิดตัวทำตลาดอย่างจริงจัง

ถึงขนาดที่ว่าสามารถกวาดยอดจองไปแล้วหลายร้อยคัน ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ ถือว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน สำหรับน้องใหม่ของวงการรถปิกอัพรายล่าสุดเพื่อสร้างการรับรู้ ทั้งในส่วนของสมรรถนะ เครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ที่ใส่มาจนแทบจะล้นคันทีมงานเอ็มจี นำโดย “พี่ตุ้ม” พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองประธานกรรมการ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ได้จัดทริปทดสอบแบบขับทั่วประเทศ ระยะททางรวมกว่า 3,000 กม.

เริ่มสตาร์ทกันจากกรุงเทพมหานคร วิ่งลงภาคใต้ ย้อนกลับมภาคอีสาน จากนั้นวกขึ้นภาคเหนือ ก่อนกลับมาสิ้นสุดที่จุดสตาร์ท ให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ และสื่อท้องถิ่น ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

ข่าวสด ยานยนต์ ได้ร่วมทริปจากภาคอีสาน มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ เริ่มต้นกันที่โชว์รูม เอ็มจี ขอนแก่น ที่มี สมิ้ง ยิ้มศิริ เอ็มดีหนุ่มมาดนุ่ม ผู้ที่เคยหลงไหลแบรนด์เอ็มจีด้วยเพราะรถคันแรกที่ได้รับมรดกมาจากคุณพ่อ เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว เป็นเจ้า เอ็มจีบี จีที สปอร์ตคันเท่สีฟ้าสด มีไม่กี่คันในเมืองไทย ขับผ่านไปทางไหน ใครๆ ก็เหลียวหลังมามองก่อนออกเดินทางทีมงานการตลาดเอ็มจี ได้มาบอกเล่ารายละเอียดตัวรถ โดยเฉพาะไฮไลต์ที่น่าสนใจ ที่ไม่ใช่มีดีแค่รูปร่างใหญ่โตเท่านั้น แต่ยังมีอีกเพียบ

รถรุ่นที่ใช้ทดสอบในวันนั้น เป็นตัวท็อป เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ ดับเบิล แคป ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร (MG EXTENDER DC 2.0 GRAND 4WD X 6 AT)

ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าขนาดใหญ่ เอกลักษณ์รถยนต์เอ็มจีรุ่นใหม่ ไฟหน้า แอลอีดี โปรเจคเตอร์ เปิด-ปิด ปรับเลี้ยวตามองศาพวงมาลัย พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

เส้นสายด้านข้างแสดงออกถึงความบึกบึน โดยเฉพาะซุ้มล้อขนาดใหญ่ ไฟท้ายดีไซน์เท่ขนาดใหญ่ เห็นมาแต่ไกล ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว บันไดข้างดีไซน์สปอร์ต

ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เบาะนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ตำแหน่งทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับความบันเทิง กล้องถอยหลัง รวมถึงระบบนำทางเนวิเกเตอร์

นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบ i-SMART ที่สามารถสั่งการ และเชื่อมต่อระหว่างคนกับรถ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย

น้องนักข่าวร่วมคัน ขอเป็นผู้ทดสอบก่อน ระยะทางประมาณ 200 กม. แล้วที่เหลือข่าวสด ยานยนต์จัดการรวดเดียวจบร่วม 350 กม.

ดูเส้นทางแล้วน่าจะโอเค เพราะมีทั้งทางเขาคดโค้งไปมา รวมถึงทางราบ และในเมือง กระโดดขึ้นนั่งเบาะหลัง เบาะนั่งหนังขนาดใหญ่ โอบกระชับนั่งสบาย

พื้นห้องโดยสารตื้นไปนิด ทำให้คล้ายกับงอเข่านิดๆ นั่งนานอาจมีอาการเมื้อยล้าได้ ดีว่ามีพื้นที่วางขาค่อนข้างกว้าง พอให้เหยียดขาคลายอิริยาบทได้อย่างมาก มีช่องแอร์หลัง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยช่องแอร์จากด้านหน้าเพียงอย่างเดียว

ช่วงล่างนุ่มนวล อารมณ์ออกไปทาง SUV สอบถามทีมงานวิศวกรแล้ว ได้ความว่า ได้เซ็ทช่วงล่างหลัง ให้รับน้ำหนักบรรทุกไว้ที่ 560 กก. ขณะที่ทั่วไปอยู่ที่ 700 กก.บวกลบเพราะจากการสำรวจพฤติกรรม ผู้ใช้งานรถปิกอัพ 4 ประตูในบ้านเรา พบว่าส่วนใหญ่ เน้นใช้งานโดยสาร มากกว่า การนำไปบรรทุกของ จึงเน้นนุ่มมากกว่าหนึบ

ได้เวลาขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับ เบาะนั่งปรับได้ 6 ทิศทาง ช่วยให้หาตำแหน่งที่ต้องการได้ง่ายดาย ช่วงแรกเป็นเขา แต่ยังดีเป็นถนน 4 เลน

ทำให้เมื่อเรียกกำลังมาใช้งาน ในยามขึ้นทางชัน หรือเร่งแซง ก็ดูไม่น่าเป็นกังวลนัก ไต่ความสูงขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยม้าหนุ่มที่บรรจุอยู่ 161 ตัว และแรงบิดที่ 375 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามารถปรับเปลี่ยนด้วยตัวเองด้วยการผลักคันเกียร์เข้าหาตัวเบาๆ ไปที่ตำแหน่งบวก-ลบได้ทันที

ก่อนออกเดินทางทีมงานเอ็มจี ได้แนะนำว่ามีโหมดให้เลือกใช้งาน เมื่อกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้ง จะอยู่โหมดนอร์มอล หากต้องการประหยัดให้ไปใช้โหมดอีโค แต่ถ้าต้องการกำลังกดปุ่มเพาเวอร์ ที่อยู่คอนโซลหน้า ใกล้กับจอสัมผัส

ระบบจะปรับคันเร่ง กับระยะการเปลี่ยนเกียร์ตามลักษณะที่ควรจะเป็น แต่บอกตามตรง หลังจากได้ลองทุกโหมด ทั้งทางราบ และทางชัน แทบไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากนัก

กำลังเครื่องยนต์ช่วงตีนต้น ออกตัวไม่อืดมากนัก แต่จังหวะคิ๊กดาวน์ เพื่อเรียกกำลังมาใช้งาน แบบปัจจุบันทันด่วน ต้องรอระยะอยู่พอสมควร บางครั้งคิ๊กดาวน์ แล้วกดมิดคันเร่ง ก็ดูเหมือนว่ากำลังจะมาไม่ทันใจสักเท่าไหร่ ดังนั้นเวลาเร่งแซงถนนเลนสวน ต้องประเมินให้ดีว่าแซงทันไหม

ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล ทำให้ต้องแลกกับความหนึบแน่นเป็นธรรมดา ยิ่งมาเจอกับพวงมาลัยที่เบามือ ไม่ได้หน่วงขึ้นตามความเร็ว

เมื่อเวลาใช้ความเร็วสูง มีแรงเหวี่ยงตามรูปถนน ที่พวงมาลัยค่อนข้างมาก ส่งผลให้ต้องใช้สมาธิในการควบคุมเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังมีผลที่ได้รับอีกอย่างคือ เมื่อถึงปลายทางแล้ว มีอาการล้าที่แขนทั้งสองข้างอยู่พอประมาณ แต่ถ้าวิ่งในเมืองน่าจะช่วยเรื่องความคล่องตัวอย่างมาก

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าโดดเด่นอย่างมาก คือความเงียบภายในห้องโดยสาร เพราะแม้ใช้ความเร็วสูง 120-130 กม.ต่อชม. เสียงที่เล็ดลอดเข้ามามีเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น และเป็นเสียงกระหึ่มเร้าใจ แบบที่ไม่ใช่เครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป ด้วยเพราะมีการบุฉนวนกันเสียงไว้รอบคันถึง 9 จุด

อยากรู้จักว่าบุคลิครถปิกอัพพันธุ์ยักษ์ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ เป็นอย่างไร ตรงกับใจ และการใช้งานหรือไม่ แวะไปทดลองขับที่โชว์รูม เอ็มจี ทั้ง 108 แห่งทั่วประเทศได้แล้วตั้งแต่วันนี้

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

สเปค

แบบ                             ปิกอัพ 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อ

เครื่องยนต์                     ดีเซล DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์

ขนาด                           1,996 ซีซี.

กำลังสูงสุด                    161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด                 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,400 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลัง                อัตโนมัติ 6 สปีด

ระบบกันสะเทือนหน้า    อิสระปีกนกคู่

ระบบกันสะเทือนหลัง    แหนบแบบซ้อนแผ่น

มิติ

กว้าง*ยาว*สูง                1,900*5,365*1,850 มม.

ราคา                             1.029 ล้านบาท

Most Popular

To Top