ข่าว

ออดี้ ประเทศไทย ยกขบวน รถสปอร์ต คูเป้ – เอสยูวี รุ่นใหม่ ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน ให้สื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะ บนเส้นทาง กรุงเทพ-อยุธยา ชูจุดเด่นเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ให้พลังควบคุมในทุกการขับขี่

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่าภายใต้การสนับสนุนของ AUDI AG และทีมบริหารคนรุ่นใหม่ ยังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์ Audi ให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จากผลตอบรับของลูกค้าที่ดีมาก เป็นข้อพิสูจน์ถึงกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า โดยควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพงานขาย การสร้างความเชื่อมั่นการบริการหลังการขาย การทำงานร่วมกับบริษัทแม่อย่างใกล้ชิด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ตรง กับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากที่สุด ออดี้ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าเน้นกิจกรรมเพิ่มประสบการณ์ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเสน่ห์ ในแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ของ Audi อย่างใกล้ชิด

“เราพบว่ากิจกรรม Test Drive เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าใหม่ได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแบรนด์ Audi ในที่สุด และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จึงได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมทดสอบสมรรถนะ และสัมผัสประสบการณ์ความล้ำยุคและล้ำสมัยแห่งเทคโนโลยีในรถยนต์ Audi แต่ละรุ่น โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่เป็นเอกลักษณ์ และสร้างชื่อเสียงให้กับ Audi มายาวนาน ในการทดสอบสื่อมวลชนจะได้สัมผัสถึงความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่ให้อำนาจในการควบคุมให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างน่าทึ่งและชาญฉลาด ทำให้ทุกเส้นทางการขับรถ Audi ทุกรุ่นสามารถตอบสนองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขับสนุกสนานและมีความปลอดภัย”

ออดี้ ประเทศไทย ได้เลือกเส้นทาง กรุงเทพ –อยุธยา ให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ ร่วมทดสอบสมรรถนะ และความโดดเด่นของยนตรกรรม มีรถยนต์ยอดนิยมของ Audi มาให้สื่อได้ทดสอบครบรุ่น ทั้ง Audi TT, Audi Q5, Audi Q7 และ The new A5 Coupe

โดยสื่อมวลชนจะได้ทดลองขับรถยนต์สปอร์ตคูเป้ ยอดนิยมที่เป็นตัวสร้างยอดขายหลักในปัจจุบัน คือ Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S Line พร้อมกับเครื่องยนต์ 1,984 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้าที่ 4,500-6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,300 รอบ/นาที  เกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของออดี้ กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

ร่วมด้วย รถสปอตคูเป้ ที่ร้อนแรงอีกรุ่นอย่าง The New A5 Coupe ที่เสริมจุดเด่นที่แตกต่างและเทคโนโลยีที่ทันสมัย  ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ที่สปอร์ต คมเข้มดุดัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ทรงประสิทธิภาพ โดย Audi A5 Coupe 40 TFSI, Audi A5 Coupe 40 TFSI S line และ Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,984 ซีซี เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,200-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 1,450-4.200 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ    

ส่วนตระกูล Q Series ที่นำมาให้สื่อมวลชนได้สัมผัสถึงสมรรถนะ และประโยชน์ใช้สอย คือ Audi Q7 40 TFSI quattro เครื่องยนต์เบนซิน 1,984 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

รวมทั้งรุ่น Audi Q7 45 TDI quattro S Line เครื่องยนต์ดีเซล 2967 ซีซี 6 สูบ 249 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ และตัวแรง อย่าง Audi Q7 45 TFSI quattro S Line  เครื่องยนต์เบนซิน 2,995 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 2,900-5,300 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์ tiptronic 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา

และน้องใหม่ล่าสุดที่กำลังสร้างสีสัน และความร้อนแรงให้กับตลาดเอสยูวีขณะนี้ คือ Audi Q5 35 TDI quattro เครื่องยนต์ดีเซล 1,968 ซีซี ให้กำลัง 190 แรงม้าที่ 3,800-4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-3,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic     7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ Audi Q5 45 TFSI quattro S Line เครื่องยนต์เบนซิน 1,984 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

กรุงเทพฯ-อยุธยา-กรุงเทพฯ

เส้นทางทดสอบเป็นเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ-อยุธยา รวมระยะทางกว่า 180 กม. เริ่มจากสำนักใหญ่ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งช่วงนี้ทุกคนได้มีโอกาสสำรวจรายละเอียดต่างๆของรถ ทั้งการออกแบบภายในของรถรุ่นต่างๆ ที่ผสมผสาน ความโฉบเฉี่ยว สปอร์ต และความเรียบง่าย ไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันรายละเอียดการออกแบบ และอารมณ์ความรู้สึกของเบาะนั่ง ก็พร้อมที่จะผลักดันให้โจนทะยานไปข้างหน้าทันทีเมื่อมีโอกาส

ช่วงจราจรหนาแน่น ผู้โดยสารจะรู้สึกได้ถึงความสบายไม่อึดอัด แน่นอนว่ารุ่นใหญ่อย่าง Audi Q7 คงไม่มีข้อสงสัย เนื่องจากห้องโดยสารที่กว้างขวาง บวกกับการออกแบบเบาะนั่งที่ให้ทั้งความนุ่ม และกระชับลำตัว และยังมีช่วงล่างแบบถุงลม ที่สามารถปรับระดับได้ตามความต้องการอีกด้วย

แต่รถอย่าง Audi A5 ที่มีรูปทรงคูเป้ ก็ให้ความรู้สึกสบายไม่แพ้กัน ซึ่งต้องขอบคุณการออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่ขยายระยะห่างช่วงล้อ ความยาวช่วงล้อ การยืดล้อด้านหน้าออกไปทำให้มีระยะโอเวอร์แฮงก์สั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีผลทำให้วิศวกรสามารถยืดพื้นที่ให้ห้องโดยสารได้มากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Audi A5 จึงเป็นรถคูเป้ที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย จากการที่ห้องโดยสารยาวขึ้น 17 มม. พื้นที่ช่วงไหล่ เพิ่ม 26 มม. พื้นที่ช่วงศีรษะ เพิ่มขึ้น 12 มม. และสำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็นั่งได้สบายยิ่งขึ้น จากพื้นที่ช่วงเข่าที่เพิ่มเข้ามา 23 มม. ขณะที่ห้องเก็บสัมภาระมีปริมาตรเพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ลิตร เป็น 465 ลิตร พร้อมรับทุกการเดินทาง

หรือแม้แต่รถสปอร์ต 2 ที่นั่งอย่าง Audi TT Coupe ที่มากับเบาะนั่งหุ้มสลับอัลคันทารา ระบบปรับดันหลัง 4 ทิศทาง และรูปทรงที่กระชับลำตัว พนักพิงที่รองรับแผ่นหลังได้พอดี ก็เพิ่มความรู้สึกสบายในการเดินทางได้เช่นกัน

สปอร์ต เร้าใจ ทรงพลัง ควบคุมแม่นยำ

จากนั้นขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปยังอยุธยา ซึ่งถนนช่วงนี้มีพื้นที่โล่งๆ ให้ทดสอบการตอบสนองของเครื่องยนต์ ทั้งในเรื่องของการทำความเร็ว อัตราเร่ง การเร่งแซง รวมถึงความคล่องตัวเมื่อมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเลนไปมาในบางสถานการณ์

การขับขี่ในรูปแบบนี้ต้องอาศัยความพร้อมหลายอย่างของรถ ทั้งอัตราเร่งที่ดี ช่วงล่างที่ยึดเกาะถนน และถ่ายทอดสภาพถนนและสถานการณ์ต่างๆ มายังผู้ขับขี่ได้ดี จากนั้นความแม่นยำของพวงมาลัยก็ช่วยให้ควบคุมรถไปยังทิศทางที่ต้องการได้อย่างมั่นคง ทั้งทางตรง หรือทางโค้ง และในช่วงนี้ สื่อมวลชนสามารถรับรู้ถึงความก้าวล้ำและความโดดเด่นของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ได้อย่างชัดเจน

การขับขี่ควบคุมที่ดียังมาจากความสามารถ ในการกระจายน้ำหนักรถลงเพลาด้านหน้าและด้านหลังให้สมดุลที่สุด ซึ่ง Audi ทำได้จากการออกแบบตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงการใช้วัสดุที่ลดน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นอลูมิเนียม หรือแมกนีเซียม ซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนักรถโดยรวมได้มาก และลดน้ำหนักที่ลงเพลาหน้า ซึ่งปกติจะมีแบกรับภาระมากกว่า เพราะเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์

รถทุกรุ่นผ่านเส้นทางต่างๆ จากกรุงเทพฯ ถึงอยุธยา ได้อย่างไม่ยากเย็น แม้รถบนท้องถนนจะมีจำนวนมาก แต่ความคล่องตัว และสมรรถนะของเครื่องยนต์ทำให้ไม่มีใครรู้สึกเครียดแต่ อย่างใด ในทางกลับกันให้ความรู้สึกสนุกสนานเข้ามาแทน และที่สำคัญ คือ สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและตรงเวลา

ทั้งนี้หากรถมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดี แต่ช่วงล่างไม่รองรับ หรือพวงมาลัยไม่แม่นยำพอ ก็จะทำให้รถขาดความคล่องตัว และผู้ขับขาดความมั่นใจในการควบคุม เครื่องยนต์ที่แรงๆ จึงไม่มีประโยชน์อะไร แต่การสร้างความสมดุลในด้านต่างๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการพัฒนารถยนต์ขึ้นมา และ Audi ทำให้เห็นในรถทุกรุ่นที่ได้สัมผัส

รถยนต์ Audi สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น comfort เน้นความสะดวกสบาย เมื่อไม่ได้ใช้ความเร็วสูง หรือ เส้นทางไม่ราบเรียบนัก โหมด Auto ให้ระบบในรถเป็นผู้เลือกให้เอง หรือต้องการการอารมณ์สปอร์ตก็ไปที่โหมด Dynamic หรือจะกำหนดเองก็ได้เช่นกันในโหมด Individual การเลือกโหมดขับขี่ต่างๆ ระบบจะควบคุมการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ การตอบสนองของพวงมาลัยกระชับขึ้น มีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อขับขี่แบบ Dynamic

ประสบการณ์ใหม่ของฝูง Audi ได้นำสื่อมวลชนมาสัมผัสกับเสน่ห์ และความล้ำสมัยของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของแบรนด์ Audi และเพลิดเพลินกับมนต์ขลังของเมือง กรุงเก่า อีกทั้งพาทุกคนกลับไปยังเมืองกรุง อย่างปลอดภัย และสุขใจ 

Most Popular

To Top